นโยบายความเป็นส่วนตัว

เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการในภารกิจของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 23 และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2522 ประกอบกับมาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 8 แห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ พ.ศ. 2549 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมทางอีเล็กทรอนิกส์ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ที่มาติดต่อขอรับบริการจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

“เจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานและลูกจ้างของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการไว้เท่าที่จำเป็น และจะขอความยินยอมก่อนการเก็บรวบรวม โดยจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม และเป็นการจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ภายใต้อำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามที่พระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 กำหนดหรือรับรองเท่านั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือ ในกรณีอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ สำหรับกรณีที่มีการใช้ข้อมูลนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวม

1. ข้อมูลเบื้องต้น

(ก) แนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จัดทำขึ้นเพื่อใช้บังคับตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

(ข) กำหนดขอบเขตให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ใช้กับการดำเนินการใด ๆ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยรวบรวม จัดเก็บ หรือได้รับมาตามวัตถุประสงค์เท่านั้น ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการได้เช่นเดียวกับชื่อ ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล์ ทั้งนี้ข้อมูลส่วนบุคคลในที่นี้ไม่ได้รวมถึงข้อมูลที่สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้เป็นการทั่วไป นอกจากนี้ยังได้ระบุขอบเขตรายละเอียดของการบังคับใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยว่า ไม่ใช้แนวปฏิบัติกับข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานอื่นที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมิได้เกี่ยวข้องหรือสามารถควบคุมได้และไม่ใช้บังคับกับแนวปฏิบัติของบุคคลที่มีได้เป็นเจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไม่มีอำนาจควบคุมดูแล

(ค) กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะแจ้งประกาศให้ทราบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (http://www.exat.co.th who http://www.thaieasypass.com) ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยอาจทำการปรับปรุง หรือแก้ไขนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและความมีประสิทธิภาพในการให้บริการ รวมถึงเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลและสาธารณะ ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้บริการอ่าน ศึกษาทำความเข้าใจนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก่อนทุกครั้งที่ใช้บริการ

 

2. การเก็บรวบรวม จัดประเภท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งทางเว็บไซต์ http://www.exat.co.th หรือ http://www.thaieasypass.com และทางกระดาษเป็นไปตามแบบฟอร์มต่าง ๆ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต้องกรอกลงไป เช่น ชื่อ ชื่อสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ ข้อมูลการผ่านทาง ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลตำแหน่งที่อยู่(location) เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามอำนาจหน้าที่และภารกิจของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยตามพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 แล้วนำมาแปลงข้อมูลเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือจัดเก็บโดยวิธีอื่น

เจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการอาจได้รับการร้องขอให้แจ้งข้อมูลส่วนบุคลในเวลาใด ๆ ที่ติดต่อกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยอาจมีการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในหน่วยงาน โดยรวมทั้งอาจผนวกข้อมูลส่วนบุคคลนี้เข้ากับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อการดำเนินงานของหน่วยงานและข้อมูลที่ผนวกเข้าด้วยกันนี้จะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่ยังคงผนวกเข้าด้วยกันอยู่

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการที่ส่งเรื่องร้องเรียน/ติดต่อทางเว็บไซต์ โดยจัดเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้ เช่นชื่อผู้ร้องเรียน อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์ จัดเก็บข้อมูลหมายเลขไอพีแอดเดรส (IP Address) ของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการทุกท่านที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงต่อไป

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการเพียงเท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ในการติดต่อการให้บริการ ประชาสัมพันธ์ หรือให้ข้อมูลข่าวสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเท่านั้น

ในกรณีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยว่าจ้างให้หน่วยงานอื่นดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการ (Outsource) เช่น การจัดทำแปลงเอกสารเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การทำสำเนาเอกสาร การดำเนินการประมวลผล เป็นต้น ในกิจการหรือกิจกรรมของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะกำหนดให้หน่วยงานที่ได้ว่าจ้างดำเนินการต่าง ๆ ข้างต้นเก็บรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการและกำหนดข้อห้ามมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้นอกเหนือจากกิจการ หรือกิจกรรมของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยแนะนำให้เจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการตรวจสอบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงจากเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อรับทราบและเข้าใจว่าเว็บไซต์ดังกล่าว เก็บรวบรวม ใช้ หรือดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการอย่างไร ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไม่สามารถรับรองข้อความหรือรับรองการดำเนินการตามที่ได้มีประกาศไว้ได้ และไม่รับผิดชอบใด ๆ หากเว็บไซต์เหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติการหรือดำเนินการใด ๆ ตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยที่ได้ประกาศไว้

 

(ก) การติดต่อระหว่างหน่วยงานของรัฐ

    การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการด้วยการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือทางโทรศัพท์ถึงเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ เพื่อตรวจสอบชื่อเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการและรหัสผ่าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการอาจแจ้งความประสงค์ให้ติดต่อด้วยวิธีการอื่นได้ในขณะที่ทำการลงทะเบียน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ผ่านช่องทางอื่นอีกหลายทาง เช่น เว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (http://www.exat.co.th หรือ http://www.thaieasypass.com) ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (Exat Public Information Center) และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (Exat Call Center) หมายเลขโทท์ 1543 เป็นต้น

(ข) การใช้คุกกี้ (Cookies)

    การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกของผู้ใช้บริการในการเข้าใช้บริการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยคุกกี้เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ระบบบริการของเว็บไซต์การทางพิเศษแห่งประเทศไทยส่งไปยังโปรแกรมเบราว์เซอร์ (Browser) ของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ เมื่อเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือใช้บริการเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยคุกกี้เหล่านี้ช่วยให้การติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการกับระบบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นไปได้อย่างปกติ คุกกี้ทำให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกจากการให้บริการในลักษณะต่าง ๆ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการควรปล่อยให้คุกกี้ทำงานไปตามปกติ ซึ่งคุกกี้ดังกล่าวมิได้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ หรือผู้ใช้บริการไม่ต้องการที่จะยอมรับคุกกี้เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการสามารถเลือกที่จะปฏิเสธคุกกี้ เจ้าหน้าที่ หรือผู้ใช้บริการก็ยังคงสามารถที่จะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้

(ค) การเก็บข้อมูลสถิติเกี่ยวกับประซากร (Demographic Information)

    การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีเว็บไซต์ให้บริการแต่ไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติประชากรที่จะสามารถประมวลผลเชื่อมโยงกับข้อมูลระบุตัวตนหรือข้อมูลส่วนบุคคลได้

(ง) บันทึกผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Log Files)

   การให้บริการเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยกำหนดให้มีการเก็บบันทึกการเข้าออกและระหว่างการใช้บริการของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลที่ระบุตัวบุคคล เช่น หมายเลขไอพีแอดเดรส (IP Address) วันที่ และเวลาของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ ซึ่งใช้เป็นข้อมูลที่เชื่อมโยงกลับไปที่ข้อมูลการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นต้น ซึ่งอาจระบุแหล่งที่มาการโพสต์หรือบุคคลที่โพสต์ในเว็บไซต์รวมถึงข้อมูลตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560) ที่กำหนดให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แต่ในกรณีจำเป็น พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 2 ปี เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้

(จ) สิทธิในการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ

    ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ หน้าเว็บไซต์จะระบุสิทธิที่จะให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) ส่วนของข้อมูลที่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการจะต้องให้ (ซึ่งจะระบุด้วยตัวอักษรสีแดง เช่น ข้อมูลช่องทางที่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการได้สะดวก เป็นต้น) และ 2) ส่วนของข้อมูลที่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการมีสิทธิเลือกที่จะให้หรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้มีการจัดช่องทางอื่นในการติดต่อสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการที่ประสงค์จะให้ข้อมูลผ่านทางช่องทางอื่นเพื่อเป็นทางเลือก เช่น ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โทรสาร ไปรษณีย์หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ได้

3. การแสดงระบุความเชื่อมโยงให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงามหรือองค์กรอื่น ๆ

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นผู้รวบรวมข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์และได้เชื่อมโยงเว็บไซต์กับเว็บไซต์ของหน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ของรัฐ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลังสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก กรมการปกครอง และกรมทางหลวง เป็นต้น โดยให้ข้อมูล หรือใช้ข้อมูลระหว่างกัน เช่น ข้อมูลเลขประจำตัวประชาชนข้อมูลเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ข้อมูลทะเบียนรถ เป็นต้น โดยเป็นไปตามภารกิจของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งการจัดเก็บ รวบรวม และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าวที่เชื่อมโยงกันนั้นการทางพิเศษแห่งประเทศไทยปฏิบัติตานโยบายและแนวปฏิบัติ ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ประกาศไว้ และเนื่องจากนโยบายและแนวปฏิบัติของหน่วยงานอื่นอาจมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการทางพิเศษแห่งประเทศไทยขอแนะนำให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการศึกษานโยบาย และแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานเหล่านั้นด้วย กรณีที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลแก่หน่วยงานหรือองค์กรอื่น การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าเพื่อให้ความยินยอมก่อนทำการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงดังกล่าว

4. การรวมข้อมูลจากที่มาหลาย ๆ แห่ง

ในบางกรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทยอาจจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าหน้าที่ หรือผู้ใช้บริการให้ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์รวมเข้ากับข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลที่อยู่ของเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อทำให้ข้อมูลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีความครบถ้วนและถูกต้องเป็นปัจจุบัน และเพื่อทำให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยสามารถให้บริการตามภารกิจและหน้าที่ได้อย่างดียิ่งขึ้น

5. การให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หรือตามคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้ และจะกำหนดให้ผู้รับจ้าง (Outsource) ต้องเก็บรักษาความลับและความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยห้ามนำข้อมูลไปใช้นอกเหนือจากที่กำหนดให้ดำเนินการ

6. การรวบรวม จัดเก็บ ใช้ และการเปิดเผยข้อมูล

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีการรวบรวม จัดเก็บ และการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่และผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินกิจการและการให้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวัตถุประสงค์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเท่านั้น และไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกัน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งเท่านั้น หรือตามข้อยกเว้นที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะนำข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการให้ข้อมูลไว้ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นหรือนอกเหนือจากที่ระบุไว้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน และให้สิทธิเจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการเลือกสิทธิห้ามไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในครั้งแรก สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอมให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นหรือที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้แล้ว หากประสงค์จะยกเลิกการให้ความยินยอมดังกล่าว สามารถแจ้งการยกเลิกได้โดยวิธีการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ มาที่ webmasters@exat.co.th หรือ off_infor@exat.co.th หรือโทรศัพท์หมายเลข 0 2558 9800 หรือ 0 2442 0800 หรือทางโทรสารหมายเลข 0 2558 9722-9 หรือติดต่อต่อด้วยตนเอง ณ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยอาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. เลขที่ 111 ถนนริมคลองบางกะปี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

7. การเข้าถึง การแก้ไขให้ถูกต้อง และการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน

เจ้าของข้อมูลสามารถร้องขอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูลดังนี้

7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

     เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคคลหรือชี้แจงถึงการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะจัดเตรียมหรือจัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามช่องทางการสื่อสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาลหรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคคลนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

     เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเป็นปัจจุบัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยจะต้องนำหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเห็นว่าการขอแก้ไขข้อมูลนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะปฏิเสธคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลและจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน

7.3 สิทธิในการลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้

     เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะดำเนินการตามคำร้องขอภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

     (1) เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์

     (2) เจ้าของข้อมูลเพิกถอนความยินยอม และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

     (3) เจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยไม่สามารถปฏิเสธการคัดค้านได้

     (4) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ กรณีดังนี้

     (ก) การเก็บรักษาไว้เพื่อความจำเป็นในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

     (ข) การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์จดหมายเหตุ ฯลฯ

     (ค) การเก็บรักษาไว้เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือปฏิบัติตามอำนาจรัฐที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้รับมอบหมาย

     (ง) การเก็บรักษาข้อมูลตามข้อ 6 วรรคสอง ที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน อาชีวเวชศาสตร์ ประโยชน์ด้านการสาธารณสุขและอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

     (จ) การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

7.4 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

กรณีเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูล แต่ไม่รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอม ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากมีข้อจำกัดจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมาย

7.5 สิทธิในการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง

     เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้จากเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทั่วไป รวมทั้ง มีสิทธิขอตรวจสอบการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

     (1) ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

     (2) การเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามข้อ 2 และข้อ 6

     ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะปฏิเสธการขอรับหรือโอนย้ายชัลส่วนบุคลหากเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องของขอไว้เป็นหลักฐาน

7.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

     เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอห้ามมิให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามเงื่อนไข ดังนี้

     (1) การทางพิเศษแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างดำเนินการตามข้อ 7.2 หากตรวจสอบได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว การทางพิเศษแห่งประเทศไทยสามารถปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวได้

     (2) เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเจ้าของข้อมูลไม่ได้ใช้สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ตามข้อ 7.3 (4) แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้แทน ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว หากสามารถอ้างหลักฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้

     (3) เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคลนั้น แต่เจ้าของข้อมูลขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

     (4) การทางพิเศษแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการคัดค้านเจ้าของข้อมูลตามสิทธิข้อ 7.7

7.7 สิทธิในการคัดค้าน

     เจ้าของข้อมูลสามารถอื่นคำร้องขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยขัดส่วนบุคคลได้ ตามเงื่อนไข ดังนี้

     (1) เพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ตามข้อสัญญาและภารกิจของรัฐ ทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะปฏิเสธการคัดค้าน หากพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญกว่าหรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้อง ตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

     (2) เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติทั้งนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะปฏิเสธการคัดค้าน หากมีความจำเป็นในการดำเนินตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

     โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐานทั้งนี้ หากไม่เข้าข้อยกเว้นการปฏิเสธการคัดค้านการทางพิเศษแห่งประเทศไทยจะไม่เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป โดยจะแยกส่วนออกจากข้อมูลอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเจ้าของข้อมูลได้แจ้งการคัดค้านให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยทราบ

7.8 สิทธิการได้รับแจ้งข้อมูล

    เจ้าของข้อมูลมีสิทธิจะได้รับแจ้งข้อมูล กรณีที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้รับข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงหรือได้รับจากบุคคลที่สาม ตามช่องทางสื่อสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

ในกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการได้ให้ข้อมูลต่าง ๆ กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยผ่านทางเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และประสงค์จะแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลดังกล่าวให้ถูกต้อง หรือให้เป็นปัจจุบัน สามารถติดต่อการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้โดยผ่านช่องทางเว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (http://www.exat.co.th หรือ http://www.thaieasypass.com) ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT Public Information Center) และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (Exat Call Center) หมายเลขโทรศัพท์ 1543 หรือมาติดต่อด้วยตนเอง ณ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. เลขที่ 111 ถนนริมคลองบางกะปี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีแนวปฏิบัติ ดังนี้

(ก) เสริมสร้างความสำนึกในการรับผิดชอบด้านความมันคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ให้ความรู้จัดสัมมนา หรือฝึกอบรมในเรื่องดังกล่าวให้แก่บุคลากรในองค์กรเป็นประจำ โดยเป็นไปตามประกาศการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

(ข) จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการปฏิบัติงานในหน้าที่ในแต่ละลำดับชั้น และจัดให้มีการบันทึกและทำสำรองข้อมูลของการเข้าถึงหรือการเข้าใช้งานในระยะเวลาที่เหมาะสมหรือตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ในบางกรณีอาจจะใช้การเข้ารหัส SSL เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูล โดยเป็นไปตามประกาศการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

(ค) จัดให้มีการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์ หรือระบบสารสนเทศทั้งหมดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเป็นไปตามประกาศการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

(ง) กำหนดให้มีการใช้มาตรการที่เหมาะสมและเป็นการเฉพาะสำหรับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญยิ่งหรือเป็นข้อมูลที่อาจกระทบต่อความรู้สึก ความเชื่อ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชนซึ่งเป็นผู้ขอใช้บริการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลอย่างชัดเจน เช่น หมายเลขบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขทะเบียนรถ เป็นต้น โดยเป็นไปตามประกาศการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย

(จ) เว็บไซต์ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นเว็บไชต์สำหรับบุคคคลทั่วไปไม่ได้ออกแบบหรือมีเจตนาเพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์ หากพบว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เก็บรวบรวมข้อมูลของบุคคลซึ่งอายุไม่เกิน 18 ปี จะดำเนินการเพื่อลบข้อมูลนั้นออกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้ จึงใคร่ขอให้บิดามารดา หรือผู้ปกครองดูแลผู้เยาว์ของท่านขณะเข้าเว็บไซต์ โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะจัดให้มีมาตรการที่รอบคอบในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งอายุไม่เกิน 18 ปี โดยวิธีการโดยเอพาะและเหมาะสม

9. การติดต่อกับเว็บไซต์

        ในกรณีที่เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อติชมใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่หรือผู้ใช้บริการสามารถติดต่อได้ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ดังต่อไปนี้

           (ก) สถานที่ติดต่อ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ.เลขที่ 111 ถนนริมคลองบางกะปี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

           (ข) โทรศัพท์ : 0 2558 9800 และ 0 2442 0800

           (ค) โทรสาร: 0 2558 9788-9

           (ง) e-mail : webmasters@exat.co.th หรือ off_infor@exat.co.th

           จึงประกาศมาเพื่อทราบ